Movie Review : The Handmaiden (2016)
“The Handmaiden” (2016) เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย ปาร์ค ชาน-วุค (Park Chan-wook) ซึ่งเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง “Fingersmith” ของ Sarah Waters แต่เปลี่ยนฉากจากอังกฤษยุควิกตอเรียไปเป็นเกาหลีในช่วงยุคที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอความซับซ้อนของความรัก การหลอกลวง และต้องการที่จะเนื้อหา 18+ (เย็ดสด) การแก้แค้นผ่านการเล่าเรื่องที่สวยงามและเต็มไปด้วยอารมณ์
เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวของ “The Handmaiden” แบ่งออกเป็นสามตอนหลัก ซึ่งแต่ละตอนจะเปิดเผยข้อมูลและมุมมองที่แตกต่างกันของเหตุการณ์เดียวกัน
ตอนที่ 1:
ซุกฮี (Sook-hee) เป็นเด็กสาวที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวโจรและถูกส่งไปทำงานเป็นสาวใช้ให้กับเลดี้ฮิเดโกะ (Lady Hideko) หญิงสาวผู้มั่งคั่งที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์กับลุงของเธอ คูซูกิ (Kouzuki) คูซูกิเป็นคนที่โหดเหี้ยมและมีกิเลสในทรัพย์สินของฮิเดโกะ ซุกฮีได้รับการว่าจ้างจากชายที่อ้างตัวว่าเป็นเคานต์ฟูจิวาระ (Count Fujiwara) เพื่อช่วยให้เขาหลอกลวงฮิเดโกะและแต่งงานกับเธอ จากนั้นจะขโมยทรัพย์สินของเธอ ซุกฮีเริ่มเข้าใกล้ฮิเดโกะและพยายามทำให้ฮิเดโกะไว้ใจเธอ
ตอนที่ 2:
ในตอนนี้มุมมองเปลี่ยนไปยังฮิเดโกะ ทำให้เราได้รู้ถึงความจริงเบื้องหลังชีวิตของเธอและความโหดร้ายที่เธอต้องเผชิญจากลุงของเธอ ฮิเดโกะถูกบังคับให้อ่านหนังสืออีโรติกแก่กลุ่มผู้ชายที่ร่ำรวยเพื่อความพึงพอใจของคูซูกิ เคานต์ฟูจิวาระวางแผนที่จะใช้ฮิเดโกะเพื่อเข้าถึงทรัพย์สินของเธอ แต่ฮิเดโกะกลับมีแผนการของตัวเอง
ตอนที่ 3:
ตอนสุดท้ายเปิดเผยการทรยศและการหลอกลวงที่เกิดขึ้นทั้งจากซุกฮีและฮิเดโกะ ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อเอาชนะคูซูกิและเคานต์ฟูจิวาระ ฮิเดโกะและซุกฮีพยายามหนีไปด้วยกันและเริ่มต้นชีวิตใหม่
การแสดงและตัวละคร
คิม มิน-ฮี (Kim Min-hee) รับบทเป็น ฮิเดโกะ เธอแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานและความสับสนทางอารมณ์ ความเปราะบางและความเข้มแข็งของฮิเดโกะถูกนำเสนออย่างชัดเจนและสมจริง
คิม แต-รี (Kim Tae-ri) รับบทเป็น ซุกฮี นี่เป็นการแสดงครั้งแรกของเธอในภาพยนตร์และเธอสามารถนำเสนอตัวละครของเธอได้อย่างน่าทึ่ง ซุกฮีมีความซับซ้อนในความเป็นโจรที่มีความไร้เดียงสาและความรักที่เธอพัฒนาขึ้นต่อฮิเดโกะ
ฮา จุง-วู (Ha Jung-woo) รับบทเป็น เคานต์ฟูจิวาระ เขาแสดงให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์และความหลอกลวงของตัวละครได้อย่างมีเสน่ห์
โช จิน-วุง (Cho Jin-woong) รับบทเป็น คูซูกิ ตัวละครนี้เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและความวิปลาส ซึ่งโชสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ากลัว
การกำกับและภาพ
ปาร์ค ชาน-วุค ใช้ทักษะการกำกับของเขาในการสร้างภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์ ความละเอียดอ่อนในการถ่ายทอดฉากและการใช้ภาพเพื่อเล่าเรื่องทำให้ “The Handmaiden” เป็นภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง
การถ่ายทำและการออกแบบฉากใน “The Handmaiden” นั้นงดงามและละเอียดอ่อน การใช้สีและแสงถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างบรรยากาศที่สมจริงและดึงดูดสายตาผู้ชม ฉากในคฤหาสน์ที่หรูหราและเต็มไปด้วยรายละเอียดเป็นหนึ่งในจุดเด่นของภาพยนตร์
ธีมและการตีความ
“The Handmaiden” นำเสนอธีมของการหลอกลวง การทรยศ และการแก้แค้น โดยมีความซับซ้อนทางอารมณ์และจิตใจของตัวละครเป็นจุดศูนย์กลาง ความสัมพันธ์ระหว่างฮิเดโกะและซุกฮีเป็นหัวใจของเรื่องราวที่แสดงถึงความรักและการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นในสภาวะที่ยากลำบาก
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังสำรวจประเด็นเรื่องเพศและอำนาจ โดยเฉพาะการใช้เพศเป็นเครื่องมือในการควบคุมและการกดขี่ ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างฮิเดโกะและซุกฮีแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการต่อสู้กับอำนาจที่กดขี่และการค้นหาความเป็นอิสระในตนเอง
ดนตรีประกอบ
ดนตรีประกอบใน “The Handmaiden” มีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศและเสริมสร้างอารมณ์ของภาพยนตร์ เพลงประกอบที่ไพเราะและละเอียดอ่อนช่วยเน้นย้ำถึงความซับซ้อนทางอารมณ์และความตึงเครียดของเรื่องราว
บทวิจารณ์และการตอบรับ
“The Handmaiden” ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ทั่วโลกสำหรับการกำกับที่ยอดเยี่ยม การแสดงที่น่าทึ่ง และการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน ภาพยนตร์ได้รับรางวัลและการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายรายการ รวมถึงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Palme d’Or ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
สรุป
“The Handmaiden” เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความงดงามและความลึกซึ้งในด้านการเล่าเรื่อง การแสดงที่ยอดเยี่ยมและการกำกับที่พิถีพิถันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำที่สุดของปาร์ค ชาน-วุค การสำรวจธีมของการหลอกลวง ความรัก และอำนาจทำให้ “The Handmaiden” เป็นภาพยนตร์ที่มีความหมายและความรู้สึกที่ยากจะลืม
ภาพยนตร์ “The Handmaiden” (2016) กำกับโดย ปาร์ค ชาน-วุค (Park Chan-wook) มีแรงบันดาลใจในการสร้างที่มาจากหลากหลายแหล่ง ทั้งจากวรรณกรรม สังคมและวัฒนธรรม รวมถึงการตีความใหม่ที่ผู้กำกับนำมาปรับใช้กับเรื่องราวเดิม นี่คือแรงบันดาลใจหลักๆ ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้:
1. แรงบันดาลใจจากวรรณกรรม
“The Handmaiden” ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง “Fingersmith” ของ Sarah Waters ซึ่งเป็นนวนิยายแนววิคตอเรีย โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการหลอกลวงและการทรยศในสังคมอังกฤษยุควิกตอเรีย ปาร์ค ชาน-วุค ตัดสินใจนำเรื่องราวนี้มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยเปลี่ยนฉากหลังไปอยู่ในยุคที่เกาหลีตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1930 การเปลี่ยนฉากหลังนี้ช่วยให้เขาสามารถนำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เกาหลีได้
2. การตีความและการเล่าเรื่องใหม่
การดัดแปลงนวนิยายเป็นภาพยนตร์ไม่ใช่เพียงแค่การย้ายฉากหลัง แต่ยังเป็นการตีความใหม่ของเรื่องราว ปาร์ค ชาน-วุค ได้นำเสนอความซับซ้อนทางอารมณ์และจิตใจของตัวละครในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากนวนิยายเดิม การเล่าเรื่องใน “The Handmaiden” ถูกแบ่งออกเป็นสามตอน ซึ่งแต่ละตอนให้มุมมองที่แตกต่างกันของเหตุการณ์เดียวกัน การเล่าเรื่องแบบนี้ช่วยเพิ่มความซับซ้อนและลึกซึ้งให้กับเนื้อเรื่อง
3. ประเด็นเรื่องเพศและอำนาจ
“The Handmaiden” สำรวจประเด็นเรื่องเพศและอำนาจอย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งสองตัว คือ ซุกฮี (Sook-hee) และ ฮิเดโกะ (Hideko) ถูกนำเสนอในลักษณะที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยอารมณ์ ภาพยนตร์ใช้เพศเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องและเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่และการต่อสู้กับอำนาจ ความสัมพันธ์ทางเพศที่แสดงออกมาในภาพยนตร์มีทั้งความรัก ความหลอกลวง และการค้นหาตัวตน
4. วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เกาหลี
การเลือกยุคที่เกาหลีตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่นเป็นฉากหลังทำให้ “The Handmaiden” มีบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ภาพยนตร์สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างวัฒนธรรมเกาหลีและญี่ปุ่นในยุคนั้น การใช้สถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นและการออกแบบฉากช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและความสมจริงให้กับเรื่องราว
5. การสร้างภาพและการกำกับ
ปาร์ค ชาน-วุค เป็นผู้กำกับที่มีความสามารถในการสร้างภาพที่สวยงามและเต็มไปด้วยรายละเอียด เขาใช้การถ่ายภาพ การจัดแสง และการออกแบบฉากเพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์ การถ่ายทอดความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครผ่านภาพและการจัดวางฉากเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
สรุป
“The Handmaiden” เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหลายแหล่ง ทั้งจากวรรณกรรม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ รวมถึงการตีความใหม่และการสร้างสรรค์ทางด้านภาพและการกำกับ ความซับซ้อนและความลึกซึ้งของเรื่องราวถูกนำเสนอผ่านการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความหมาย ทำให้ “The Handmaiden” เป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำและมีความหมายลึกซึ้ง